Kissanaluck Loypoon

10 มิ.ย. 20222 นาที

20 ที่เที่ยวน่าน หน้าหนาว หน้าร้อน เช็คอินน่าน แอ่วได้ทั้งปี

อัพเดตเมื่อ: ก.พ. 1

สำหรับคนที่หาว่า หนาวนี้เที่ยวไหนดี น่าน

Contents - เนื้อหา

1. ดอยสวนยาหลวง 11. วัดภูเก็ต

2. อำเภอบ่อเกลือ 12. โค้งหมายเลข 3

3. อุทยานแห่งชาติขุนสถาน 13. วัดพระธาตุแช่แห้ง

4. ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ 14. Coco Valley

5. วัดภูมินทร์ 15. หมู่บ้านสะปัน

6. อำเภอเชียงกลาง 16. โรงเรียนชาวนาศิลาเพชร

7. ดอยเสมอดาว 17. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน

8. อำเภอปัว 18. ซุ้มลีลาวดีพิพิธภัณฑ์น่าน

9. ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ 19. วังศิลาแลง

10.ดอยสกาด 20. ถนนคนเดินข่วงเมือง

  • เที่ยวน่านเดือนไหนดี ?

คนไหนเป็นสายเขียวรักธรรมชาติ เชื่อว่าต้องมีน่านเป็นหนึ่งพิกัดที่อยู่ในแพลนไปปักหมุดกัน แม้น่านจะได้ชื่อว่ามีช่วงพีคอยู่ในหน้าฝนและหน้าหนาวประมาณ กลางเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน อาจจะลากยาวไปถึงเดือนธันวาคม แต่เราว่าหลายแห่งก็สามารถเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปี ซึ่งวันนี้ก็ลองรวบรวมเอามาให้เก็บลงลิสต์กันไว้แล้วจ้า ถ้าอ่านแล้วโดนใจ อย่าลืมไปส่องตั๋วเครื่องบินน่านกันได้กับ Traveloka Travel & Lifestyle Super App เลยนะ จองง่าย แถมยังได้ราคาดี มีราคาเปรียบเทียบในแต่ละสายการบินให้ แถมยังครบจบทุกการจองภายในรอบเดียว ด้วยที่พัก รถรับส่งสนามบิน และรถเช่า เช็คตารางแล้วดูว่าว่างช่วงไหนของปีก็ตีตั๋วไปเที่ยวน่านกันได้ตลอดเวลา ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีที่ไหนน่าปักหมุดบ้าง

แนะนำก่อนอื่นก่อนที่จะเดินทางให้ลองไปเช็คมาตรการสนามบินแต่ละแห่ง ว่าจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง สามารถคลิกดูได้ ที่นี่ ทางไปจองตั๋วเครื่องบินไปน่านราคาประหยัด กับ Traveloka Travel & Lifestyle Super App จองได้ที่นี่ > https://www.traveloka.com/th-th/flight/to/Nan.NNT

จองรถเช่า หรือเช่ารถ กับ Traveloka Travel & Lifestyle Super App > https://www.traveloka.com/th-th/car-rental

20 ที่เที่ยวน่าน หน้าหนาว หน้าร้อน เที่ยวได้ตลอดปี ที่เที่ยวน่าน 2565


เที่ยวน่านเดือนไหนดี ?

🌾 ช่วง ปลายฝน-ต้นหนาว (กลางเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน)

เป็นช่วงที่น่าเที่ยวน่านที่สุดของปี หมอกจะสวยงาม อากาศก็เย็นสบาย ในตอนกลางวันอาจมีฝนบางส่วน นอกจากนี้ยังมีนาข้าวกำลังออกรวงสีทองสวยงาม


 
🔥 เที่ยวน่านหน้าร้อน (ช่วงเดือนมีนาคม-กลางพฤษภาคม)

ถือเป็นช่วงที่ค่อนข้างร้อนและมีควันจากการเผาป่า นอกจากนี้ธรรมชาติรอบตัวยังจะไม่สดใสเหมือนช่วงอื่น ดังนั้นไม่ค่อยเหมาะกับการเที่ยวน่านในช่วงนี้

🌧️ เที่ยวน่านหน้าฝน (กลางพฤษภาคม-กลางตุลาคม)

ถือเป็นช่วงที่ฝนตกเยอะ ถนนอาจลื่นไปบ้าง แต่ธรรมชาติรอบตัวกลับจะสวยงามอย่างอลังการ บางคนยังชื่นชอบการเที่ยวน่านในช่วงหน้าฝนเพราะธรรมชาติรอบตัวจะเขียวอบอุ่นมากขึ้น

❄️ เที่ยวน่านหน้าหนาว (เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์)

เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการเดินป่า ที่นี่มีป่าที่ราบ และเขาสูง สามารถขึ้นดอยหลวงได้ หรือเที่ยวหมอกหนาวบนเขาใหญ่ อากาศหนาวจัด ถ้าถามว่า น่านหน้าหนาวกี่องศา ก็ต้องบอกเลยว่าช่วงพีคๆ อุณหภูมิต่ำสุด 2-9 องศาเซลเซียส เลยทีเดียว ต้องเตรียมผ้ากันหนาวให้พร้อม แต่ถ้าเจอหมอกตอนเช้าและเย็นก็จะสวยงามมาก ใครชอบถ่ายภาพแบบนี้ต้องมาเที่ยวเดือนธันวาคมได้เจอแน่นอน


1. ดอยสวนยาหลวง

เชื่อว่าสายดอยส่วนใหญ่ก็ล้วนแต่พุ่งเป้าปักหมุดไปขึ้นที่สูงกันในช่วงหน้าหนาว แต่เราอยากขอชวนไปขึ้นดอยในหน้าอื่นกันดูบ้าง เพราะอย่างที่ดอยสวนยาหลวงแห่งนี้ นอกจากจะมีทิวทัศน์เขียวๆ ของป่าไม้และไร่กาแฟที่อยู่รอบด้านให้ชมกันแล้วนะ ยังว่ากันว่ามีอากาศเย็นสบายให้สัมผัสกันได้ตลอดทั้งปีด้วยจ้า ที่เริ่ดก็คือสามารถใช้บริการรถของชาวบ้านขึ้นไปส่งกันได้ถึงบนยอดดอยเลยละ แต่ถ้าเป็นหน้าฝนอาจจะยุ่งยากเลอะเทอะกว่าฤดูอื่นกันหน่อยนะ จะนอนโฮมสเตย์ของชาวบ้านหรือจะไปกางเต็นท์ด้านบนก็เลือกได้เลยจ้ะ บอกเลยว่าชิลล์ทุกฤดู


2. อำเภอบ่อเกลือ

นอกจากจะเป็นพิกัดเดียวในประเทศไทยที่มีบ่อเกลือสินเธาว์อยู่บนภูเขาสูง มีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นรวมถึงกรรมวิธีผลิตเกลือแบบโบราณให้ชมกันแล้วนะ เส้นทางสู่ตัวอำเภอบ่อเกลือยังเป็นเส้นทางวิ่งเลาะเลียบภูเขาที่สวยที่สุดเส้นทางหนึ่งในประเทศไทยอีกด้วยจ้า และเพราะบริเวณอำเภอบ่อเกลือนั้นตั้งอยู่บนความสูงประมาณ 630 - 750 เมตร จึงมีอากาศที่ค่อนข้างสบายตลอดทั้งปี ทำให้ที่นี่เป็นพิกัดที่สามารถมาชิลล์กันได้แม้กระทั่งในหน้าร้อนเลยละ แนะนำให้สายสโลว์ไลฟ์ลองมาปักหมุดดู


3. อุทยานแห่งชาติขุนสถาน

เป็นอีกหนึ่งพิกัดที่สามารถไปชิลล์กับอากาศสบายๆ กันได้ตลอดทั้งปี เพราะอุทยานฯ แห่งนี้นั้นเป็นพื้นที่ภูเขาซึ่งมีความสูงเฉลี่ยประมาณ 800 - 1,300 เมตรเลยจ้า ส่วนที่สูงที่สุดนั้นมีความสูงถึง 1,643 เมตร และเป็นอีกพิกัดเด็ดที่คนรักการนอนเต็นท์ท่ามกลางธรรมชาติน่าจะถูกใจ ในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะมีทะเลหมอกแบบจัดเต็มให้ดูกันได้บ่อยเชียวละ ส่วนหน้าหนาวอากาศก็อาจจะลดลงไปจนถึงเลขตัวเดียวเลยนะ เดินทางก็ง่ายเพราะขับรถขึ้นมาถึงลานกางเต็นท์กันได้เลยจ้า ใครตามหาพิกัดแค้มปิ้งแบบสบายๆ ปักหมุดไปได้เลย


4. ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ

พิกัดยอดฮิตในอำเภอยอดนิยมอย่างปัว ซึ่งเชื่อว่าใครมาก็ต้องแวะเช็คอินกันเกือบทุกคนนั่นละ จากฟาร์มเพาะเห็ดหลากหลายสายพันธุ์ ที่ผันตัวเองมาเป็นร้านอาหารรสเด็ดซึ่งมีพิซซ่าเห็ดเป็นซิกเนเจอร์ ใครอยากมาชิลล์ในอำเภอปัวท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ขอชวนให้มาพักที่ฟาร์มนี้กันซักคืนสองคืนเลยจ้า รับรองว่าจะได้นอนในบ้านพักซึ่งรายล้อมไปด้วยสีเขียวของธรรมชาติ เป็นอีกพิกัดที่เหมาะจะไปนั่งๆ นอนๆ กินของอร่อยกันได้ตลอดทั้งปีเลยทีเดียว


5. วัดภูมินทร์

นับเป็นวัดซึ่งเป็นซิกเนเจอร์อันดับต้นๆ ของเมืองน่าน เรียกว่าใครไปจังหวัดนี้แล้วไม่ได้มาเช็คอินกับภาพจิตรกรรมฝาผนังปู่ม่านย่าม่านในพระอุโบสถของที่นี่ ก็เหมือนยังมาไม่ถึงเมืองน่านเลยเชียวนะ ตัววัดตั้งอยู่ใจกลางอำเภอเมืองเลยจ้า นี่จึงเป็นพิกัดที่สะดวกในการเดินทางมา ได้ไหว้พระแล้วยังได้เช็คอินกับชิ้นงานศิลปะสวยๆ ด้วยนะ มาน่านเมื่อไหร่ต้องไปให้ได้เชียว


6. อำเภอเชียงกลาง

สายเขียวรักธรรมชาติที่ชอบการใช้ชีวิตท่ามกลางบรรยากาศเขียวขจีสงบสบาย ห้ามมองข้ามที่นี่ไปเลยนะ เพราะเชียงกลางนั้นเป็นอำเภอเล็กๆ ซึ่งเต็มไปด้วยทุ่งนาที่จะสวยพีคสุดๆ ในช่วงหน้าฝน ด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งรายล้อมไปด้วยทิวเขามากมาย แถมยังเป็นพิกัดซึ่งยังสงบสบายและไม่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่านวุ่นวายมากนัก ทำให้เชียงกลางเป็นอีกแลนด์มาร์คที่ไม่อยากให้คนรักความสโลว์ไลฟ์พลาดไปจริงๆ


7. ดอยเสมอดาว

เป็นอีกแลนด์มาร์คยอดนิยมที่คนมาเที่ยวน่านต้องปักหมุดมา ส่วนหนึ่งก็เพราะการเดินทางที่สะดวกสบาย แถมยังเป็นพิกัดกางเต็นท์ซึ่งมาที่เดียวก็ดูได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกเลยละ เพราะยอดดอยเสมอดาวนั้นเป็นพื้นที่โล่งกว้างซึ่งมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา ในช่วงปลายฝนต้นหนาวยังจะได้เห็นทะเลหมอกแบบจัดหนักจุใจ และแม้จะเป็นดอยที่มีความสูงไม่มากนัก แต่ดอยเสมอดาวก็มักจะมีอากาศเย็นสบายให้ได้สัมผัสกันตลอดทั้งปี ในช่วงหน้าหนาวที่ฟ้าใสๆ ยังมองเห็นทางช้างเผือกด้วยตาเปล่าได้จากที่นี่เลยด้วยจ้ะ อย่าลืมแวะมาปักหมุดเชียว


8. อำเภอปัว

อีกพิกัดยอดฮิตของเมืองน่าน ซึ่งมีจุดขายหลักเป็นธรรมชาติอันงดงามสบายตาของนาข้าวเขียวขจีที่มีแบ็คกราวนด์เป็นทิวเขาสลับซับซ้อนอยู่ด้านหลัง ถ้าอยากไปเห็นวิวปังๆ ของนาข้าวนะ ช่วงพีคจะอยู่ที่ประมาณเดือนกันยายน - ตุลาคมของทุกปี ในช่วงหน้าหนาวแม้นาข้าวจะเปลี่ยนเป็นไร่ข้าวโพดแทนสีเขียวของทุ่งนา แต่ก็จะมีอากาศเย็นๆ มาทดแทน บอกเลยว่าแม้จะมาในฤดูไหนก็ยังมีวิวสวยสบายตา มีร้านกาแฟบรรยากาศดี แถมยังมีผ้าทอไทลื้อให้แวะชมแวะช้อปกันได้ตลอดจ้า ไม่อยากเจอคนเยอะๆ ช่วงหน้าร้อนก็จะค่อนข้างสงบที่สุดนะ เลือกมาตามชอบก็แล้วกัน


9. ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ

ร้านกาแฟในบรรยากาศไม่ซ้ำใคร เพราะซ่อนตัวอยู่หลังร้านขายผ้าสไตล์ท้องถิ่นที่ชื่อลำดวนผ้าทอ นี่จึงเป็นคาเฟ่ที่รายล้อมไปด้วยกลิ่นอายสุดน่ารักที่นำผ้าทอมือสารพัดสีสันมาเป็นจุดขาย นอกจากจะมาแวะช้อปแวะชิมเครื่องดื่มในบรรยากาศแบบกระท่อมปลายนาสุดสโลว์ไลฟ์ เค้ายังมีที่พักบรรยากาศสบายให้แวะมาใช้บริการกันด้วยนะ ช่วงปลายฝนต้นหนาวจะเห็นนาข้าวเขียวขจี ถัดไปช่วงฤดูหนาวอากาศที่นี่ก็จะเย็นสบาย ใครอยากอยู่แบบสงบไม่วุ่นวายลองสวนกระแสมาในช่วงหน้าร้อนดูก็ได้นะ ชอบแบบไหนก็จัดไป


10. ดอยสกาด

อีกหนึ่งพิกัดที่น่าสนใจในอำเภอปัว ซึ่งเชื่อว่าคนรักการท่องเที่ยวในวิถีสโลว์ไลฟ์หลงใหลการใช้ชีวิตเรียบง่ายกับผู้คนในท้องถิ่นต้องแฮปปี้ เพราะนี่คือหมู่บ้านเล็กๆ ของชาวไทยภูเขาเผ่าลั้วะซึ่งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวขจี ว่ากันว่าอากาศที่นี่เย็นสบายตลอดปีเลยด้วยนะ แวะมาดอยสกาดกันเมื่อไหร่ ห้ามพลาดการไปจิบกาแฟดริปหอมๆ และชาอัสสัมที่ชาวบ้านปลูกไว้ในพื้นที่กันด้วยล่ะ ใครชอบพักผ่อนในบรรยากาศสงบสบายแต่เดินทางง่ายไม่ยุ่งยากนะ บอกเลยว่าดี


11. วัดภูเก็ต

นับเป็นพิกัดเด็ดในอำเภอปัวซึ่งพลาดไม่ได้ เพราะนอกจากจะแวะไปกราบพระเพื่อเป็นสิริมงคลในการเดินทางกันแล้ว วัดนี้ยังเป็นจุดชมวิวทุ่งนากว้างซึ่งมีแบ็คกราวนด์ด้านหลังเป็นดอยภูคา เป็นพิกัดที่เหมาะจะมาชมทั้งแสงแรกและแสงสุดท้ายของวันกันเลยละ อยากชมความสวยของทุ่งนาอย่างใกล้ชิด แนะนำให้เดินลงไปชิลล์กันที่ร้านฮักนากาแฟ คาเฟ่สไตล์ท้องถิ่นบรรยากาศน่ารักซึ่งอยู่ด้านล่างกันเลยจ้า ไปแวะนั่งๆ นอนๆ จิบกาแฟริมทุ่งนาในอารมณ์สบายๆ ไม่เพลินก็ใจแข็งเกินไปแล้วละ


12. โค้งหมายเลข 3

มาน่านทั้งที ก็ต้องมีรูปเช็คอินกับแลนด์มาร์คสุดฮิตแห่งนี้กลับไปด้วยนะ ถ้ามาช่วงหน้าหนาวซึ่งเป็นไฮซีซั่นก็อาจจะต้องเจอกับผู้คนหนาตาที่แวะมาถ่ายรูปเช็คอินกันตรงนี้ ใครอยากถ่ายรูปแบบสบายๆ ไม่ต้องเจอะเจอกับผู้คนที่มาแย่งถ่ายรูปในมุมนี้มากมายนัก อยากชวนให้แวะมาปักหมุดถ่ายรูปในช่วงโลว์ซีซั่นอย่างหน้าร้อนกันดูจ้า ถึงอากาศจะไม่เย็นสบายแต่เชื่อว่าจะได้ถ่ายรูปกันแบบจุใจเชียวละ ลองแวะมาก็แล้วกัน


13. วัดพระธาตุแช่แห้ง

จะบอกว่าที่นี่เป็นวัดคู่เมืองน่านก็ว่าได้ เพราะนี่คือวัดซึ่งเป็นที่ตั้งขององค์พระบรมธาตุเจดีย์ที่ใช้ในตราประจำจังหวัดน่านเลยจ้า นี่จึงเป็นอีกพิกัดที่เรียกว่าไม่ควรพลาด ว่ากันว่าวัดนี้สร้างขึ้นในระหว่างปี พ.ศ.1891 - 1901 โน่นเลยนะ ด้านในองค์เจดีย์เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งอัญเชิญมาจากอาณาจักรสุโขทัย นับเป็นอีกพิกัดสำคัญที่ไปเมืองน่านแล้วอยากชวนให้แวะไปเช็คอินกัน


14. Coco Valley

นี่คือพิกัดที่สายคาเฟ่ก็แฮปปี้ คนชอบที่พักในบรรยากาศสุดชิคก็ต้องหลงรัก และที่ต้องมาปักหมุดกันให้ได้ก็คือบรรดาช็อกโกแลต เลิฟเวอร์สทั้งหลาย เพราะนี่คือโอกาสซึ่งคุณจะได้สัมผัสกับกระบวนการผลิตช็อกโกแลตตั้งแต่ต้นจนจบเลยจ้า มาที่นี่คุณจะได้เจอตั้งแต่ไร่โกโก้แบบอินทรีย์ ซึ่งคุณจะมีโอกาสได้เก็บผลผลิตเองด้วยนะ ตามมาด้วยการเรียนรู้กรรมวิธีผลิตทั้งหลาย และปิดท้ายด้วยการไปเวิร์คช็อปทำช็อคโกแลตจากฝีมือตัวเองเลยจ้ะ มานอน มาชิม มาแชะ แวะมาที่เดียวได้ครบทุกอย่างจริงๆ


15. หมู่บ้านสะปัน

หมู่บ้านเล็กๆ บรรยากาศสุดสบายในวงล้อมของขุนเขาแห่งนี้ เป็นพิกัดที่หลายต่อหลายคนอยากจะปักหมุดมา ช่วงหน้าฝนอากาศจะชุ่มฉ่ำชื่นใจ ในขณะที่คุณจะได้เห็นทุ่งนาและป่าเขาเขียวขจีสบายตาทุกด้าน ส่วนช่วงยอดนิยมสุดๆ ของที่นี่ก็ต้องยกให้กับหน้าหนาวจ้า แต่แม้จะมาในช่วงหน้าร้อนก็ยังว่ากันว่าอากาศที่นี่ก็จะเย็นสบาย ที่สำคัญคือจะได้บรรยากาศซึ่งสงบกว่าในช่วงอื่นด้วยนะ ชอบฟีลไหนมาช่วงนั้นเลยจ้า รับรองว่าชิลล์แน่นอน


16. โรงเรียนชาวนาศิลาเพชร

นี่คือพิกัดที่เราจะได้ไปนอนชิลล์ชมวิวกลางทุ่งนา ซึ่งมาพร้อมความสะดวกสบายครบครัน แถมยังมีพิกัดเก๋ๆ ให้ถ่ายรูปกันได้สารพัดมุมเชียวละ ใครเป็นสายกิจกรรมเชื่อว่าต้องแฮปปี้ เพราะในฤดูทำนาที่นี่เค้าจะเปิดให้เราได้เข้าร่วมการเรียนรู้วิถีการทำนาด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นกันด้วยนะ ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ แถมยังได้เรียนรู้กรรมวิธีต่างๆ ด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิดเลยจ้า ใครสนใจรีบลงแพลนเลยนะ อย่าคิดนานจ้า เดี๋ยวถึงฤดูทำนาจะมาไม่ทันเด้อ


17. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน

อยากมาเดินเล่นไปพร้อมกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ที่มา และเรื่องราวของเมืองน่านแบบครบวงจร ก็ต้องมาเช็คอินที่นี่กันก่อนเลยจ้ะ โดดเด่นสะดุดตาตั้งแต่ภายนอกด้วยการเป็นอาคารโบราณสวยงามสีเหลืองสดใส ส่วนด้านในพิพิธภัณฑ์นั้นเป็นที่เก็บรักษาข้าวของมีค่าในท้องถิ่นมากมาย ทั้งของศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ ไปจนถึงข้าวของซึ่งผู้คนใช้งานในชีวิตประจำวัน เป็นอีกพิกัดที่สายพิพิธภัณฑ์ห้ามพลาดเลย


18. ซุ้มลีลาวดีจังหวัดน่าน

ไม่ไกลจากตัวพิพิธภัณฑ์ ก็คือพิกัดที่มีผู้คนแวะมาถ่ายรูปเช็คอินกันตลอดทั้งปี เพราะที่ซุ้มลีลาวดีจังหวัดน่านแห่งนี้จะสวยไม่ซ้ำกันในแต่ละฤดูเลยเชียวละ จะมาน่านในหน้าร้อน ฝน หรือหนาว ก็แวะมาโพสต์ท่าแจ่มๆ ถ่ายรูปกับความสวยของอุโมงค์ต้นไม้ที่นี่ได้เลยจ้า รับรองว่าสวยทุกฤดูที่มาแน่นอน


19. วังศิลาแลง

หลายคนยกให้ที่นี่เป็นแกรนด์ แคนยอนของอำเภอปัวในเมืองน่าน เพราะการเป็นร่องน้ำซึ่งไหลผ่านผาหินสวยแปลกตาในระยะทางยาวประมาณ 400 เมตร และเป็นพิกัดเด็ดที่เหมาะจะมาในช่วงหน้าร้อนด้วยนะ เพราะในช่วงหน้าฝนกระแสน้ำจะแรงเกินไปจนถ่ายรูปไม่สวยแถมยังอันตรายต่อการมาชมจ้ะ ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์อยากชวนให้มาปีนป่ายหามุมสวยถ่ายรูปกันที่นี่เลยน้า รับรองว่าทั้งสวยทั้งมันกันจนลืมไม่ลง


20. ถนนคนเดินข่วงเมือง

ถนนคนเดินกาดข่วงเมืองน่านนั้นเป็นอีกพิกัดที่อยากชวนให้แวะมา เพราะถนนสายเล็กๆ แห่งนี้ถือว่าเป็นแหล่งที่รวมของดีเมืองน่านทั้งหลายเอาไว้แบบครบครันเลยละ ไม่ว่าจะเป็นเมนูเด็ดประจำถิ่นซึ่งมีให้เลือกกินทั้งคาวและหวาน รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ ของที่ระลึก ของฝาก และอีกอย่างที่อยากให้ช้อปติดมือกลับไปก็คือผ้าทอมือสไตล์ท้องถิ่นที่ทั้งสวยทั้งราคาดี ถนนคนเดินที่นี่เค้ามีช่วงเย็นวันศุกร์ - อาทิตย์นะ อยู่ติดกับวัดภูมินทร์เลยจ้า แวะมากระจายรายได้กันให้ไว


ไม่ว่าจะเป็นในช่วงฤดูร้อน ฝน หรือหนาว เมืองน่านก็ยังมีพิกัดน่าสนใจให้เราได้แวะไปเช็คอินกันได้ตลอดทั้งปีเลยละ หลายแห่งอากาศเย็นสบายแม้กระทั่งในหน้าร้อนด้วยนะ ที่สำคัญคือใครชอบความสงบสบายไม่วุ่นวายพลุกพล่าน รวมถึงอยากไปสัมผัสอารมณ์ท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดนะ แนะนำให้ลองไปน่านในช่วงหน้าร้อนดูจ้า คนว่าง ได้สัมผัสประสบการณ์ทั้งหลายอย่างเต็มที่ เชื่อว่าต้องมีหลายคนตกหลุมรักเมืองน่านในบรรยากาศแบบนี้กันแน่นอน

ฝากติดตาม Fanpage SaiChillofficial

    109560
    0